การเล่นกับลูกวัยแรกเกิด – 3 ขวบ แบบไหนเหมาะสม เมื่อลูกน้อยเติบโตขึ้นตามวัย ความต้องการอันดับต้น ๆ ที่นอกเหนือจากปัจจัยแวดล้อมอย่างเสื้อผ้า, อาหาร หรือของเล่น ลูกก็ยังมีความต้องการให้พ่อแม่เอาใจใส่ คอยให้กำลังใจในเวลาที่ลองทำอะไรใหม่ ๆ โดยเฉพาะในช่วงวัยที่กำลังจะเริ่มพูดเป็นด้วยแล้ว พ่อแม่ก็จะยิ่งต้องดูแลให้มากขึ้น เพราะในช่วงนี้ลูกน้อยก็จะเรียนรู้คำศัพท์ต่าง ๆ เพิ่มเข้าไป ซึ่งพ่อแม่ก็ควรหากิจกรรมให้ลูกทำ พร้อมทั้งสอนให้รู้จักถึงสิ่งเรียกรอบ ๆ ตัว แล้วไม่ต้องกลัวว่า การเล่นกับลูกวัยแรกเกิด – 3 ขวบ แบบไหนเหมาะสม เพราะเราคัดเลือกสิ่งที่น่าสนใจ และคิดว่าเป็นประโยชน์มาให้นำไปปรับใช้กัน

ในปัจจุบันนี้เราจะเห็นว่ามีเด็กมากมาย ที่เข้าโรงเรียนตั้งแต่อายุเพียง 1 ขวบ ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะว่าพ่อแม่ไม่มีเวลามากพอที่จะเลี้ยงดูที่บ้าน เนื่องจากต้องออกไปทำงานแล้วไม่มีใครช่วยดูแลให้ ดังนั้น การฝากลูกให้ไปอยู่ที่โรงเรียนจึงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะนอกจากจะมีคนดูแลแล้ว ก็ยังมีเด็กรุ่นเดียวกันเป็นเพื่อน แต่ทั้งนี้การนำลูกไปโรงเรียนก็ต้องคำนึงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารที่บอกความต้องการของตัวเอง เช่น อยากกินข้าว หรืออยากเข้าห้องน้ำ ถ้าหากเด็กไม่สามารถบอกเองได้ ก็จะทำให้ผู้ดูแลเกิดความลำบากใจ และทางเดียวที่จะช่วยลูกให้เอาตัวรอดกับการอยู่ร่วมกันในสังคมก็คือ การที่พ่อแม่จะต้องพยายามชวนคุย หรือถามคำถามแล้วให้ลูกตอบ เพื่อดูว่าลูกเข้าใจในสิ่งที่สื่อสารหรือไม่ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่จะทำให้เห็นพัฒนาการของลูกได้ชัดขึ้น

กิจกรรมที่เหมาะสมกับเด็กในช่วงอายุ 1 – 3 ปี
ส่วนใหญ่แล้วเด็กช่วงวัยนี้พ่อแม่นิยมใช้ หนังสือนิทาน มาเป็นตัวช่วย ซึ่งมันสามารถอ่านได้ทั้งในช่วงกลางวัน และช่วงก่อนนอน แต่ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับช่วงวัย ถ้าหากยังเล็กก็ให้หาเล่มที่มีภาพสีสันสดใส บวกกับลูกเล่น โดยอาจเลือกใช้เป็น หนังสือผ้า หรือ หนังสือลอยน้ำ ในขณะอาบน้ำก็ได้ เพราะมันจะช่วยให้เด็กสนใจมากขึ้น ส่วนเด็กที่โตขึ้นมาอีกหน่อยก็สามารถเลือกเล่มที่มีเรื่องราวสั้น ๆ แล้วก็อ่านให้ฟังซ้ำ ๆ เพื่อให้เด็กเกิดการจดจำคำศัพท์ใหม่ที่ไม่เคยรู้จัก ซึ่งประโยชน์ของการทำแบบนี้ก็คือ เมื่อเด็กจำได้ก็จะสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้เอง และสามารถตอบคำถามในเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่ควรฝืนบังคับให้ชอบการอ่าน เพราะการบังคับอาจหมายถึงการส่งต่อความไม่ชอบได้
เพราะฉะนั้นถ้าบ้านไหนที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่องการอ่าน ก็สามารถเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่น ๆ อย่างเช่น การเล่นกีฬาง่าย ๆ เช่น การโยนลูกบอลลงตะกร้า หรือการแข่งขันเกมเพื่อหาผู้ชนะ เมื่อลูกได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ บ่อยขึ้น ก็จะทำให้ลูกรู้สึกสนุกแล้วก็อยากเล่นกับพ่อแม่ตลอดเวลา ที่สำคัญเลยพ่อแม่ต้องใจแข็งมาก ๆ หากลูกอยากดูจอมือถือ แนะนำว่าถ้าไม่อยากตึงจนเกินไป ก็ให้กำหนดการตั้งเวลาในการเล่นแต่ละครั้งแบบพอดี ๆ ไม่ใช่ปล่อยให้อยู่กับจอทั้งวัน ทั้งคืน เพราะมันอาจส่งผลเสียได้ในระยะยาว นอกจากลูกจะกลายเป็นเด็กที่ไม่ค่อยสื่อสารกับใครแล้ว ก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคออทิสติกเทียมอีกด้วย ดังนั้น ถ้าพ่อแม่ที่ไม่อยากให้ลูกเข้ากับใครไม่ได้ ก็ควรงดการดูจอไปเลยเป็นดีที่สุด

การเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง
- ความเครียด เป็นสิ่งที่จะทำให้สมองทำงานช้าลง พ่อแม่จึงควรเป็นกำลังใจให้เมื่อเห็นลูกมีวิตกกังวล
- สภาพแวดล้อม ต้องเป็นสถานที่โล่ง ๆ อากาศดี เหมาะกับการเจริญเติบโต และไม่อึดอัด
- การสังเกต จะทำให้ลูกมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างได้
- ของเล่น ตามช่วงวัยที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ ทั้งสมอง, ร่างกาย และจิตใจ
- อาหาร จะต้องเลือกอาหารที่มีประโยชน์ และบำรุงสมองได้ ทั้งนี้อาจป้อนอาหารเสริมร่วมด้วย
- พ่อแม่ หรือผู้ดูแล จะต้องเข้าใจธรรมชาติของเด็ก และมีคุณสมบัติมากพอที่จะดูแลเด็กได้