ฟันแท้ ฟันน้ำนม

ฟันแท้ ฟันน้ำนม ต่างกันอย่างไร? วิธีดูแลสุขภาพช่องปากให้แข็งแรง

ฟันแท้ ฟันน้ำนม คืออะไร?

การเจริญเติบโตของฟันเป็นกระบวนการที่สำคัญต่อพัฒนาการของเด็กตั้งแต่วัยทารกจนถึงวัยผู้ใหญ่ โดยทั่วไปแล้วคนเราจะมีฟันอยู่ 2 ชุดหลัก ๆ ได้แก่ ฟันน้ำนม และ ฟันแท้ ซึ่งทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกันทั้งในด้านจำนวน ขนาด ลักษณะการทำงาน และช่วงอายุที่ขึ้นมา

  • ฟันน้ำนม หรือฟันชุดแรก มักขึ้นตั้งแต่อายุประมาณ 6 เดือน จนถึง 2-3 ปี ครบทั้งปากจะมีจำนวน 20 ซี่ ฟันน้ำนมมีหน้าที่สำคัญในการช่วยบดเคี้ยวอาหาร ออกเสียง และยังเป็นตัวนำทางให้ฟันแท้ขึ้นอย่างเป็นระเบียบ
  • ฟันแท้ คือฟันชุดถาวรที่ขึ้นมาแทนฟันน้ำนม โดยเริ่มปรากฏตั้งแต่อายุประมาณ 6 ปี และจะขึ้นจนครบเมื่ออายุ 20-25 ปี จำนวนทั้งหมด 32 ซี่ ฟันแท้จะอยู่กับเราตลอดชีวิต หากสูญเสียไปจะไม่สามารถงอกใหม่ได้

ความแตกต่างของฟันแท้และฟันน้ำนม

  1. จำนวนฟันฟัน
    • น้ำนม 20 ซี่
    • ฟันแท้ 32 ซี่
  2. ช่วงเวลาการขึ้นฟัน
    • ฟันน้ำนม อายุ 6 เดือน – 3 ปี
    • ฟันแท้ เริ่มที่ 6 ปี ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น
  3. ขนาดและความแข็งแรง
    • ฟันน้ำนม มีขนาดเล็ก เคลือบฟันบางกว่า จึงผุง่าย
    • ฟันแท้ ขนาดใหญ่ เคลือบฟันแข็งแรงกว่า
  4. อายุการใช้งาน
    • ฟันน้ำนม หลุดเมื่อถึงเวลาที่ฟันแท้จะขึ้นแทน
    • ฟันแท้ อยู่ถาวร หากดูแลไม่ดีอาจสูญเสียถาวร

ความสำคัญของการดูแลฟันน้ำนมและฟันแท้

หลายคนอาจคิดว่า ฟันน้ำนมไม่สำคัญ เพราะสุดท้ายก็หลุดออกไป แต่ในความเป็นจริง การดูแลฟันน้ำนมมีผลโดยตรงต่อสุขภาพฟันแท้ในอนาคต หากฟันน้ำนมผุจนต้องถอนก่อนเวลา จะส่งผลให้ฟันแท้ขึ้นผิดตำแหน่ง หรือมีการเรียงตัวที่ไม่สวยงาม

สำหรับ ฟันแท้ การดูแลยิ่งสำคัญกว่า เพราะหากสูญเสียไปแล้วจะไม่สามารถขึ้นใหม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาช่องปาก เช่น การบดเคี้ยวผิดปกติ เหงือกร่น หรือแม้แต่กระทบต่อโครงสร้างใบหน้า

วิธีดูแลฟันน้ำนม

  1. เริ่มแปรงฟันให้เด็กตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น ใช้แปรงขนนุ่มและยาสีฟันสำหรับเด็ก
  2. จำกัดการกินขนมหวาน น้ำอัดลม และอาหารที่มีน้ำตาลสูง
  3. พาเด็กพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพฟัน
  4. ฝึกให้เด็กมีวินัยในการแปรงฟัน วันละ 2 ครั้ง

วิธีดูแลฟันแท้

  1. แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์
  2. ใช้ไหมขัดฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน
  3. หมั่นตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน
  4. หลีกเลี่ยงการใช้ฟันเปิดขวด กัดของแข็ง หรือใช้ฟันผิดวิธี
  5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟัน เช่น นม ชีส ปลา และผักใบเขียว

ปัญหาที่มักพบได้กับฟันน้ำนมและฟันแท้

  • ฟันน้ำนมผุเร็วเพราะโครงสร้างฟันบาง
  • ฟันแท้ขึ้นซ้อนหรือเกผิดตำแหน่ง หากฟันน้ำนมหลุดก่อนกำหนด
  • ฟันแท้ผุจากการละเลยการทำความสะอาด
  • คราบหินปูนและปัญหาเหงือกอักเสบ

สรุป

ฟันแท้ ฟันน้ำนม มีความสำคัญต่อสุขภาพช่องปากและการใช้ชีวิตประจำวัน การดูแลตั้งแต่ฟันน้ำนมขึ้นจนถึงฟันแท้ครบจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันปัญหาฟันผุ การเรียงฟันผิดตำแหน่ง และรักษารอยยิ้มให้สวยงามไปตลอดชีวิต การพาเด็กไปตรวจฟันตั้งแต่เล็ก ๆ และการสร้างวินัยในการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ทั้งฟันน้ำนมและฟันแท้แข็งแรง พร้อมใช้งานได้อย่างยาวนาน

แชร์บทความนี้
Scroll to Top