ปวดท้องประจำเดือน ปวดหน่วงประจำเดือน สาเหตุเกิดจากอะไร ปัญหาที่สาว ๆ พบเจอในทุกเดือนนั่นก็คือเรื่อง ปวดหน่วงก่อนเป็นประจำเดือน ซึ่งปัญหานี้นับว่าเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเช่นกัน เพราะบางคนก็มีอาการปวดจนทนไม่ไหวต้องกินยา บางคนที่โชคดีหน่อยก็อาจจะพบเจอบ้าง แต่บางคนที่โชคดีกว่านั้นก็อาจจะไม่เคยเจออาการนี้เลย ดังนั้น เราจะมาลองดูกันว่าสาเหตุที่แท้จริงของการ ปวดหน่วงก่อนเป็นประจำเดือน เกิดมาจากอะไร แล้วจะมีวิธีรับมือยังไงบ้าง หากใครที่ได้รู้ข้อมูลแล้วก็สามารถนำไปบอกต่อได้เลย

สาเหตุ ปวดท้องประจำเดือน หรือ ปวดหน่วง
สาเหตุของการปวดประจำเดือนมีอยู่ 2 สาเหตุ คือ
1. ปวดประจำเดือนแบบปฐมภูมิ จะเป็นการปวดแบบปกติ เพราะสารพรอสตาแกลนดิน จะไปกระตุ้นกล้ามเนื้อมดลูกให้บีบตัว และหดเกร็งเพื่อขับเยื่อบุโพรงมดลูกออกมา แต่ถ้ามดลูกหดตัวมากเกินไปจะทำให้เกิดการกดทับหลอดเลือดบริเวณใกล้เคียง จนเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวด นอกจากนี้อาจจะทำให้เกิดอาการปวดหัว หรือคลื่นไส้ได้
2. ปวดประจำเดือนทุติยภูมิ จะเป็นการปวดท้องน้อยก่อนมีประจำเดือน และระหว่างมีประจำเดือน ซึ่งค่อนข้างจะแสดงอาการมากกว่าแบบแรก และอาจมีสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพ คือ
- ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เช่น การเกิดพังผืด หรือช็อกโกแลตซีสต์
- ภาวะมดลูกโต เช่น เนื้อมดลูกบวม หรือขยายเป็นก้อน
- เนื้องอกมดลูก เช่น ก้อนเนื้องอกที่เกิดขึ้นบริเวณมดลูก
- ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ เช่น ปากมดลูกตีบตัน ทำให้เกิดแรงดันภายในมดลูก
- ภาวะปากมดลูกตีบ สามารถเป็นได้ตั้งแต่กำเนิด และเกิดได้ในภายหลัง เช่น ปากมดลูกอักเสบ

ลักษณะอาการปวดที่อาจเกิดขึ้น
- มีอาการปวดท้องน้อยเป็นเวลา 2 – 3 วัน หรือมีอาการปวดท้องน้อยรุนแรง
- มีอาการมวนท้อง
- มีอาการท้องเสีย หรือท้องผูก
- มีอาการปวดสะโพก, บริเวณหลังส่วนล่าง และต้นขาด้านใน
- ปวดหัว, วิงเวียน, คลื่นไส้, อาเจียน
- มีความรู้สึกเหนื่อยล้า
แนวทางการรักษา
1. กินยาเพื่อบรรเทาอาการปวด เช่น ยาไอบูโพรเฟน หรือยานาพรอกเซน โดยวิธีการใช้ก็คือ ควรจะกินก่อนวันที่คาดไว้ว่าจะเป็นประจำเดือน 1 วัน เมื่อเป็นประจำเดือนแล้วยังมีอาการปวดอยู่ ให้กินทุก 4 – 6 ชั่วโมง เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด
2. กินยาคุมกำเนิด เช่น ยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนรวม เพราะยาประเภทนี้จะมีการรวม ฮอร์โมนเอสโตรเจน และ โปรเจสตินอยู่ภายในเม็ดเดียวกัน ซึ่งสรรพคุณของฮอร์โมน ทั้งสองนี้จะช่วยลดความรุนแรงของการปวดได้ค่อนข้างดี
3. เข้ารับการผ่าตัด ในกรณีนี้ อาจมีสาเหตุมาจากภาวะแทรกซ้อน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความอันตรายต่อร่างกาย เช่น ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หากแพทย์วินิจฉัยแล้ว ว่าสมควรจะต้องได้รับการผ่าตัด เพราะอาจมีปัญหาต่อไปกับการใช้ชีวิตในอนาคต ซึ่งวิธีนี้จะช่วยป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำได้

วิธีการดูแลตัวเอง
เมื่อรู้สึกว่า ใกล้จะเป็น ประจำเดือน แล้วมี อาการปวดหน่วง ก็สามารถหาบรรเทาอาการเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง ก่อนที่บ้าน หากไม่ไหวจริง ๆ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ เพราะบางครั้งอาจมีโรคแทรกซ้อนที่เราไม่รู้ตัวก็เป็นได้ ส่วนวิธีบรรเทาอาการปวดให้ทำดังนี้
- เตรียมถุงน้ำร้อน สำหรับประคบบริเวณท้องน้อย เพื่อบรรเทาอาการปวด และทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
- พักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมง / วัน เพื่อที่ร่างกาย จะได้พักอย่างเต็มที่
- งดการดื่มคาเฟอีน และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากเลิกได้เลยก็จะเป็นการดี
- นวดในบริเวณที่รู้สึกเมื่อยล้า เช่น หลัง หรือในส่วนที่รู้สึกว่าปวดเมื่อย เพื่อเป็นการผ่อนคลาย
- หากิจกรรมทำให้ผ่อนคลาย เช่น การอ่านหนังสือ หรือการออกกำลังกายเบา ๆ อย่างการเดิน
- คลายกล้ามเนื้อด้วยการแช่น้ำอุ่น ซึ่งจะทำให้กระตุ้นการไหลเวียนเลือดได้ด้วย
เมื่อเรารู้สาเหตุขอวการ ปวดท้องประจำเดือน แล้ว ก็จะทำให้เราสามารถ รักษา และ ใช้ชีวิตประจำเดือน ได้ปกติดี เป็นอย่างดี เพราะถ้าเราปล่อยให้เป็นนาน ๆ อาจจะทำให้เกิดโรคร้ายตามมาโดยที่เราไม่คาดคิด เพราะฉนั้น เราควรศึกษาข้อมูลและ สังเกตุอาการของตนเองอย่างละเอียด เรา แฮปปี้เบบี้ จึงนำเอาความรู้เกี่ยวกับการปวดท้องประจำเดือนมาฝาก ให้ผู้หญิงทุกคนได้อ่าน และ ศึกษา เพื่อการดูแลตนเองต่อไป เมื่อรู้ถึงสาเหตุของ อาการ ปวดท้องประจำเดือน หรือ ปวดหน่วงก่อนเป็นประจำเดือน แล้ว ก็อยากให้ทุกคนที่ได้อ่าน นำความรู้นี้ไปปรับใช้ ในชีวิตประจำวัน หรือ อาจนำความรู้นี้ ไปบอกต่อเพื่อเป็นการแบ่งปันข้อมูล เพราะมันก็อาจมีบางคนที่ยังไม่เข้าใจ หรือ อาจไม่เคยสัมผัสกับความปวดแบบนี้ ดังนั้น ข้อมูลนี้จึงถือว่าเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ดูเนื้อหาอื่นเพิ่มเติม : แม่และเด็ก
ขอบคุณข้อมูล : วิกิพีเดีย