วัคซีนเด็กมีอะไรบ้าง

วัคซีนเด็กมีอะไรบ้าง เรื่องสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย

คุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่กำลังสงสัยว่า วัคซีนเด็กมีอะไรบ้าง และต้องวางแผนการฉีดวัคซีนให้ลูกน้อยอย่างไร วันนี้ Happybaby จะพาคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านมาเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงการวางแผนการฉีดวัคซีนในเด็ก เพราะการฉีดวัคซีนคืออีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรปล่อยปละละเลยไปโดยเด็ดขาด นอกเหนือจากการเลี้ยงดูลูกน้อยที่ถูกต้อง เพราะเด็กแรกเกิดมีร่างกายที่บอบบาง มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคได้ง่ายตามสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กตั้งแต่ช่วงแรกเกิด จึงเป็นเรื่องที่พ่อแม่ไม่สามารถมองข้ามไปได้เลย

วัคซีนเด็กมีอะไรบ้าง เริ่มต้นจากวัคซีนขั้นพื้นฐาน

สำนักโรคติดต่อเคยแนะนำให้เด็กทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนขั้นพื้นฐานไว้ตั้งแต่ปี 2561 โดยมีวัคซีนจำนวน 9 ชนิด ควบคุมโรคได้มากถึง 11 โรค เป็นวัคซีนวัณโรคหรือวัคซีนบีซีจี วัคซีนโรคไวรัสตับอักเสบบี วัคซีนโรคคอตีบ วัคซีนโรคไอกรน วัคซีนโรคบาดทะยัก วัคซีนโรคโปลิโอ วัคซีนโรคหัด วัคซีนโรคหัดเยอรมัน วัคซีนโรคคางทูม วัคซีนโรคไข้สมองอักเสบเจอี และวัคซีนโรคเอชพีวี

วัคซีนเด็กฉีดถึงกี่ขวบ

ตามแผนงานเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2567 กำหนดให้เด็กเข้ารับวัคซีนได้ตั้งแต่ช่วงแรกเกิดจนถึงอายุ 12 ปี หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่อยากรู้ว่า วัคซีนเด็กฉีดถึงกี่ขวบ สามารถดูตารางการรับวัคซีน และช่วงเวลาในการฉีดได้ดังนี้

หากสังเกตรายละเอียดของชนิดวัคซีนในตารางแล้ว คุณพ่อคุณแม่จะเห็นว่า มีวัคซีนเสริมสำหรับเด็ก นอกเหนือจากวัคซีนขั้นพื้นฐานด้วย ซึ่งเราจะขอแนะนำเรื่องวัคซีนเสริมสำหรับเด็กในหัวข้อต่อไป

วัคซีนเสริม คืออะไร

นอกเหนือจากวัคซีนขั้นพื้นฐานที่พ่อแม่ควรรู้ว่าวัคซีนเด็กมีอะไรบ้างแล้ว วัคซีนเสริมสำหรับเด็กก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันโรคที่สำคัญไม่น้อยเช่นกัน ในบางโรงพยาบาล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจะพิจารณาและแนะนำให้เด็กได้รับวัคซีนเสริมจากปกติ ข้อดีของวัคซีนเสริมคือมีวัคซีนรวมอยู่ในเข็มเดียว เด็กไม่ต้องเจ็บหลายครั้ง ผู้ปกครองก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปโรงพยาบาลหลายครั้งด้วย โดยวัคซีนเสริมจะมีดังนี้

  1. วัคซีนโรต้า – ป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า
  2. วัคซีนไอพีดี – ป้องกันการเกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจ
  3. วัคซีนฮิบ – ป้องกันโรคฮิบ ที่พบบ่อยในเด็กอายุ 2 เดือน – 5 ปี
  4. วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส – เด็กที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสแล้ว ยังมีโอกาสเป็นอยู่ แต่อาการของโรคจะเบาลงมาก
  5. วัคซีนตับสายพันธุ์ A – ป้องกันการเกิดดีซ่าน ตัวเหลืองตาเหลืองจากไวรัสสายพันธุ์ เอ
  6. วัคซีนไข้เลือดออก – ป้องกันเชื้อไวรัสไข้เลือดออกได้ถึง 4 สายพันธุ์ โดยมีอัตราป้องกันการป่วยสูงถึง 80 %
  7. วัคซีนเสริมไข้หวัดใหญ่ – เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ฉีดปีละ 1 ครั้ง
  8. วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก – ฉีดได้ในเด็กที่อายุ 9 ปีขึ้นไป ในเด็กผู้หญิงจะช่วยป้องกันการติดเชื้อที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก และให้ผลป้องกันการเป็นหูดที่อวัยวะเพศของเด็กชายได้ด้วย

ข้อควรปฏิบัติสำหรับการเข้ารับวัคซีน

  1. นำสมุดบันทึกการฉีดวัคซีนไปด้วยทุกครั้ง
  2. ไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนขณะที่ร่างกายมีไข้สูง
  3. หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว ควรอยู่ในโรงพยาบาลต่ออีก 30 นาที เพื่อดูปฏิกิริยา หากเกิดอาการแพ้วัคซีน

หวังว่าบทความวันนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านได้เข้าใจว่า วัคซีนเด็กมีอะไรบ้าง ได้เป็นอย่างดี เพราะการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กตั้งแต่ช่วงแรกเกิด เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมาก ๆ เด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด เพื่อให้เด็ก ๆ มีสุขภาพแข็งแรงยิ่ง ๆ ขึ้นไป

แชร์บทความนี้