อาการหลังผ่าคลอดที่ต้องเจอ

อาการหลังผ่าคลอดที่ต้องเจอ แบบไหนปกติ แบบไหนไม่ปกติ

อาการหลังผ่าคลอดที่ต้องเจอ แบบไหนปกติ แบบไหนไม่ปกติ เมื่อลูกน้อยในครรภ์ใกล้จะได้เวลาลืมตาดูโลก เหล่าพ่อแม่พี่น้องก็ล้วนแต่รอคอยต้อนรับ อยากให้เวลานั้นมาถึงเร็ว ๆ ทางเลือกในการคลอดของแม่ ๆ ก็มีอยู่แค่ 2 ทาง นั่นก็คือ การคลอดธรรมชาติ และ การผ่าคลอด ถ้าหากเลือกได้แม่ ๆ ก็อยากจะเลือกแบบแรกมากกว่า เพราะมันจะได้รสชาติความเจ็บปวดที่ต้องจำไปตลอดชีวิต แต่เมื่อถึงเวลาจริงสภาพร่างกายของแม่บางคนที่ไม่พร้อม ก็อาจจะไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้ได้ และต้องลงท้ายด้วย การผ่าคลอด ซึ่งแม่ทั้งหลายก็จะพบกับ อาการหลังผ่าคลอด ที่บอกได้เลยว่าน่าจะต้องเผชิญกับมันไปอีกพักใหญ่ ๆ

อาการหลังผ่าคลอด

โดยสิ่งแรกที่จะรับรู้ได้แบบทั่วไปก็คือ อาการเจ็บแผลผ่าคลอด โดยในช่วง 1 – 2 วันแรกอาจจะเจ็บแผลแล้วมีอาการปวดมาก หากทนไม่ไหวเจ้าหน้าที่ก็จะให้ยาเพื่อระงับปวด หลังจากวันที่ 3 เป็นต้นไปในช่วงเวลาพักฟื้นก่อนที่จะกลับบ้าน ก็ไม่ควรทำอะไรที่หนักจนเกินไป แต่ควรลุกเดินบ้างเล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน และอาการท้องผูก ถ้าหากมีอาการไอ หรือจามให้ใช้มือประคองท้องไว้เพื่อจะได้ไม่กระทบกับแผลมาก ซึ่งในส่วนนี้จะต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะไม่ว่าจะทำการใด ๆ ก็ตามมันจะส่งผลกระทบไปถึงแผลได้ นอกจากนี้ก็ยังมี อาการหลังผ่าคลอดแบบปกติ อื่น ๆ เช่น

อาการหลังผ่าคลอด

อาการหลังผ่าคลอดที่ต้องเจอ แบบไหนปกติ

1. การปวดท้องหลังคลอด เป็นอาการทั่วไปที่พบได้หลังคลอด ส่วนระดับความปวดอาจไม่หนักเท่าตอนจะคลอด แต่ปวดหนักกว่าตอนมีประจำเดือนเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแม่ด้วย และอาการที่เกิดขึ้นนี้จะกินเวลาไม่เกิน 3 วัน

2. มีน้ำคาวปลา จะไหลออกมาหลังคลอด 2 – 3 วัน มีลักษณะเป็นของเหลวที่ปนกันจากเลือดคั่ง, สารคัดหลั่ง และเมือก เมื่อมดลูกมีการฟื้นตัวสิ่งเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ ลดลง แล้วมีการเปลี่ยนสีจากที่คล้ายเลือดจนกลายเป็นสีใสในที่สุด ซึ่งถ้าแม่คนไหนมีกระบวนการแบบนี้ภายใน 3 – 5 สัปดาห์ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะมันหมายถึงความฟื้นตัวไวของมดลูกนั่นเอง

3. มีประจำเดือน ไม่สามารถระบุวันเวลาที่แน่ชัดได้ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 4 – 5 เดือน หลังคลอด อย่างบางคนก็มาเร็ว บางคนก็มาช้า ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแม่เช่นเดียวกัน และถึงแม้ว่าประจำเดือนยังไม่กลับมา แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดการตั้งครรภ์ได้อยู่

4. เกิดรอยแผลเป็น แล้วแต่ว่าแพทย์จะทำการลงมีดในแนวไหน ถ้าลงในแนวตั้งจะเห็นรอยแผลง่าย แต่ถ้าลงมีดในแนวนอนจะมองเห็นแผลไม่ชัด แต่ก็มีแม่บางคนที่เกิดอาการนูนแดงขึ้นมา เนื่องจากสภาพร่างกายที่อาจบอบบางจนเกิดอาการ ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ด้านศัลยกรรมตกแต่งก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะถ้าสภาพรอยแผลที่ผ่าตัดไม่ค่อยน่าดูก็ยังสามารถตกแต่งได้

อาการหลังผ่าคลอดที่ต้องเจอ

หากแม่ท่านไหนที่มีอาการตามที่กล่าวข้างต้น ก็ไม่ต้องเกิดความกังวลใจให้มากจนเกินไป เพราะนั่นเป็นธรรมดาที่จะเกิดขึ้นกับแม่ทุกคน แต่ถ้าเกิด อาการหลังผ่าคลอดแบบไม่ปกติ ที่ไม่เหมือนกับข้างต้น ถ้าปล่อยไว้ก็คงไม่ใช่เรื่องดี หากแม่อยากอยู่กับลูกน้อยไปนาน ๆ ก็อย่าลืมสังเกตความเปลี่ยนแปลงของตัวเองด้วย อย่ารอให้สายจนแก้ไขไม่ทัน เมื่อไหร่ที่เกิดอาการเหล่านี้จะต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป

  1. ภายใน 1 ชั่วโมง มีเลือดออกชุ่มผ้าอนามัย 1 ผืน ให้ใช้น้ำแข็งวางบนหน้าท้อง หรือมดลูกแล้วรีบไปโรงพยาบาล
  2. น้ำคาวปลามีสีแดงสดมากกว่า 4 วัน, มีกลิ่นเหม็นกว่าปกติ, มีก้อนเลือดขนาดใหญ่ปนออกมา, น้ำคาวปลาไม่ไหล
  3. ปวดท้องน้อยหลังคลอด 1 สัปดาห์
  4. มีไข้สูงเกิน 38 องศา เกิน 24 ชั่วโมง
  5. รู้สึกเจ็บหน้าอก เนื่องจากเกิดการอุดตัน
  6. ขา, น่อง, เต้านม (บางส่วน) มีอาการบวม
  7. แผลผ่าตัดบวมแดง, มีหนอง, มีน้ำเหลืองไหลซึม
  8. รู้สึกแสบเวลาปัสสาวะ, ปัสสาวะบ่อยครั้ง ๆ ละน้อย ๆ และมีสีเข้ม
  9. รู้สึกซึมเศร้า หรือรู้สึกโกรธเกิน 2 – 3 วัน

คุณแม่ที่สังเกตุอาการแล้วเป็นแบบข้างต้นต้องรีบไปพบแพทย์ แต่ถ้าไม่มีอาการอะไรผิดปกติ ก็สามารถใช้ชีวิต ปกติได้เลย และหมั่นค่อยสังเกตุอาการตนเองให้ดี ว่ามีอะไรที่ไม่ปกติไหม เพื่อเป็นการดูแลตนเอง จะได้มีกำลังที่จะดูแลลูกให้ดี

แชร์บทความนี้
Scroll to Top