ยาคุมหลังคลอด ควรทานเมื่อไหร่

ยาคุมหลังคลอด ควรทานเมื่อไหร่ หลังจากที่คุณแม่คลอดลูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกเวลาก็จะกลายเป็นของลูกไปจนหมดสิ้น แต่ถึงอย่างนั้นพ่อแม่ก็จะต้องให้เวลาในการกระชับสัมพันธ์กันด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ก็มีหลายบ้านที่มีความกังวลใจว่า ถ้าหากไม่มีการคุมกำเนิดในระหว่างนี้ ก็อาจทำให้ได้ลูกมาอีกคนในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน และนั่นคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ เพราะแค่ลูกคนแรกก็แทบไม่มีเวลา ถ้ามีอีกคนก็จะบวกค่าใช้จ่ายขึ้นไปอีกมาก แต่การที่จะกินยาคุมก็กลัวว่าลูกจะได้รับผลกระทบผ่านทางน้ำนมอีก เพราะฉะนั้นเราจะมาหาคำตอบกันว่า หลังคลอดควรเริ่มกินยาคุมเมื่อไหร่ เพื่อที่ทุกบ้านจะได้แสดงความรักกันได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลใจ

เวลาไหนที่ควรกินยาคุมกำเนิด ยาคุมหลังคลอด

จากคำแนะนำของแพทย์ คุณแม่ควรจะเริ่มกินคุมกำเนิดตั้งแต่ 6 สัปดาห์หลังคลอด เพราะในระหว่างนี้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ ไม่ว่าคุณแม่จะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ หรือว่าเป็นการผ่าคลอดก็ตาม ส่วนการเลือก ยาคุมกำเนิด ควรเลือกยาคุมหลังคลอดที่มีฮอร์โมน Progestrogen เพราะยาชนิดนี้ไม่มีผลต่อน้ำนม แต่ถ้าคุณแม่คนไหนที่ลืมกิน ยาคุมกำเนิด เป็นระยะเวลา 3 วัน ติดต่อกันจะต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันไว้ก่อน แล้วไปปรึกษาแพทย์ให้แน่ใจว่า ในช่วงนี้จะไม่มีโอกาสในการตั้งท้อง

การคุมกำเนิดหลังคลอด

นอกจากการใช้ ยาคุมกำเนิดหลังคลอด ที่นับว่าเป็นวิธีที่ง่ายแล้ว มันก็ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยคุมกำเนิดได้ และวิธีที่เหมาะกับผู้ที่ชอบลืมบ่อย ๆ มีดังนี้

การใช้ถุงยางอนามัย ถือว่าเป็นการคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยม และมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ก็เป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งวิธีนี้จะไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่ ถ้าเมื่อไหร่ที่มีเพศสัมพันธ์ก็ควรจะป้องกันทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นการตั้งท้อง หรือว่าการติดเชื้อต่าง ๆ

การฉีดยาคุมกำเนิด เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวลืมกินยาคุมกำเนิด โดยสามารถฉีดได้ภายใน 7 วัน หลังจากที่มีประจำเดือน หรือภายใน 6 สัปดาห์หลังคลอด และสามารถเลือกได้ว่าจะฉีดแบบคุมกำเนิด 1 เดือน หรือจะฉีดแบบคุมกำเนิด 3 เดือน ซึ่งการฉีดยาคุมกำเนิดนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อการให้นมลูก แต่ถ้าฉีดยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ร่างกายของแม่เลือดออกกะปริดกะปรอย, มวลกระดูกลดลง และคอเลสเตอรอลอาจจะสูงขึ้น ดังนั้น การปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

การฝังยาคุมกำเนิด ก็จะคล้ายกับการฉีดยาคุมกำเนิด เพราะมันเหมาะสำหรับผู้ที่กลัวลืมการกินยาเช่นกัน โดยการฝังยาคุมกำเนิดสามารถฝังได้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน หรือภายใน 6 สัปดาห์หลังคลอด โดยสามารถเลือกแบบฝัง 1 หลอด แล้วคุมกำเนิดได้ 3 ปี กับการฝัง 2 หลอด แล้วคุมกำเนิดได้ 5 ปี ซึ่งแพทย์จะทำการฝังยาคุมกำเนิดไว้ที่ท้องแขนด้านในเหนือข้อศอก และผลที่จะได้ก็คือตัวของแม่จะได้รับฮอร์โมน Progestin แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องการให้นมลูก เพราะว่าไม่มีผลกระทบใด ๆ

ห่วงคุมกำเนิด ควรจะใช้ในช่วง 6 สัปดาห์หลังคลอด เนื่องจากต้องรอให้มดลูกเข้าอู่ก่อน และเพื่อลดโอกาสการทะลุจากห่วงคุมกำเนิด โดยสามารถเลือกได้ 2 แบบ คือ ห่วงคุมกำเนิดชนิดมีฮอร์โมน สามารถคุมกำเนิดได้ 5 ปี และห่วงคุมกำเนิดชนิด Copper สามารถคุมกำเนิดได้ 10 ปี ซึ่งการคุมกำเนิดแบบนี้ไม่ส่งผลต่อการให้นม แต่อาจจะส่งผลกับร่างกายของแม่ ซึ่งอาจมีอาการตกขาวมากขึ้น, มีเลือดออกกะปริดกะปรอย, ประจำเดือนมาน้อยลง

สรุปแล้วการกิน ยาคุมกำเนิด ควรจะกินในช่วงระยะ 6 สัปดาห์หลังการคลอด เพราะในระหว่างนั้นมดลูกจะเข้าอู่เรียบร้อยแล้ว และพ่อแม่ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์กันได้ แต่ทั้งนี้ถ้าหากกลัวว่าจะตั้งท้องอีกก็ให้คุมกำเนิดตามวิธีที่แนะนำไปข้างต้น หากไม่แน่ใจว่าร่างกายของแม่เหมาะกับการคุมกำเนิดแบบไหน ให้ปรึกษาแพทย์ เพราะโดยปกติแล้วแพทย์ก็มักจะให้คำแนะนำ ตั้งแต่การนัดตรวจหลังคลอดอยู่แล้ว ถ้ารู้แบบนี้ก็สบายใจได้เลย

ดูเนื้อหาอื่นเพิ่มเติม : แม่และเด็ก

ขอบคุณข้อมูล : วิกิพีเดีย