สิ่งที่แม่ควรรู้เมื่อลูกเริ่มหัดเดิน หลังจากที่ลูกน้อยลืมตาดูโลกแล้ว พ่อแม่ย่อมมีหน้าที่ฟูมฟักเลี้ยงดูลูกให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงการดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของพัฒนาการด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย, จิตใจ, ภาษา, การสื่อสาร หรือการเข้าสังคม ในการที่เด็กคนหนึ่งจะมีพัฒนาการที่ดีได้ พ่อแม่ก็จะต้องคอยช่วยส่งเสริมด้วย เพราะลำพังแค่ตัวเด็กเพียงคนเดียวก็คงทำอะไรได้ไม่สำเร็จ และเมื่อเด็กกำลังจะพ้นจากวัยทารก ก็จะนำไปสู่ความท้าทายขั้นตอนต่อไปที่พ่อแม่ต้องรับมือ ดังนั้น สิ่งที่แม่ควรรู้เมื่อลูกเริ่มหัดเดิน ก็มีอยู่หลายข้อ เดี๋ยวค่อยไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ด้วยธรรมชาติของเด็กวัยนี้ที่ไม่มีความผิดปกติ ก็มักจะเริ่มเดินก้าวแรกภายในช่วงอายุ 1 – 1 ปีครึ่ง โดยสามารถบวก / ลบได้ไม่กี่เดือน ซึ่งก่อนที่เด็กจะลุกขึ้นยืนได้ ก็จะต้องมีการทรงตัวด้วยท่านั่งตั้งแต่ช่วงอายุ 6 เดือน หากลูกสามารถก้าวขาทรงตัวได้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ถ้าลูกไม่สามารถทรงตัวได้แม้จะมีที่เกาะ ก็ให้สงสัยได้เลยว่าลูกอาจมีปัญหาในด้านสุขภาพ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง จึงทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้อย่างปกติ ดังนั้น พ่อแม่จึงควรสังเกตถึงความผิดปกตินี้ด้วย

สิ่งที่แม่ควรรู้เมื่อลูกเริ่มหัดเดิน
- การทรงตัว เมื่อลูกมีอายุได้ 9 – 15 เดือน ก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยของการเดิน ที่พ่อแม่จะเห็นว่าลูกมีการทรงตัวด้วยนั่งก่อนแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น โดยการหาที่เกาะแล้วเดินไปรอบ ๆ และเมื่อชำนาญก็จะก้าวต่อไปเรื่อย ๆ
- การประคองการเดิน เป็นเรื่องที่พ่อแม่สามารถช่วยลูกได้ โดยอาจจับมือทั้งสองข้างชูขึ้น แล้วให้พ่อแม่เดินตามจากทางด้านหลัง ซึ่งลูกก็จะพยายามเดินให้ได้ด้วยตัวเอง
- พัฒนาการ พ่อแม่ควรศึกษาข้อมูลในการเลี้ยงเด็กให้ดีว่า เมื่อลูกถึงช่วงวัยนี้ควรจะทำอะไรได้บ้างแล้ว หรือถ้าหากทำไม่ได้ควรจะแก้ไขอย่างไร เพื่อให้เป็นประโยชน์กับตัวลูกมากที่สุด
- สุขภาพของลูก นับว่าเป็นปัญหาหนึ่งที่มีต่อพัฒนาการ เพราะถ้าสุขภาพของลูกไม่แข็งแรงพอ ก็มีส่วนที่จะทำให้ลูกทำอะไรล่าช้า เช่น ลูกอาจจะไม่มีแรงหยิบจับของได้อย่างเต็มที่ พ่อแม่ก็จะต้องพาไปตรวจก่อน
- การพบเจอเด็กคนอื่น เมื่อไหร่ที่ลูกหัดเดินแล้ว ให้ลองพาออกไปเจอเด็กคนอื่นที่ด้านนอกบ้าง เพราะเมื่อลูกเห็นคนอื่นที่เดินไปมา ก็จะเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้ลูกอยากเดินได้เร็วขึ้น
- การจัดสภาพแวดล้อม พ่อแม่ควรจะหาที่เกาะที่ไม่มีเหลี่ยมคม สำหรับไว้ให้ลูกหัดเกาะเดิน โดยอาจจะเป็นคอกเด็กที่มีความนิ่ม เพราะถ้าหากพลาดล้มลงลูกก็จะได้ไม่เจ็บตัว
- ความปลอดภัย ถ้าลูกรู้จักการก้าวเดินแล้ว สิ่งที่พ่อแม่ต้องคำนึงอีกอย่างก็คือ ความปลอดภัย หากเฟอร์นิเจอร์ในบ้านชิ้นไหนที่มีมุมแหลม ๆ แนะนำให้หายางกันมุมโต๊ะมาติดไว้
- ไม่สวมรองเท้า หรือถุงเท้า ให้กับลูก พ่อแม่ควรจะปล่อยให้ลูกหัดเดินด้วยเท้าเปล่า เพื่อการสัมผัสกับพื้นแบบเต็มฝ่าเท้า และต้องมั่นใจว่าบนพื้นไม่มีความอันตรายจากสิ่งต่าง ๆ ที่จะบาดเท้าลูก

และท้ายที่สุดเมื่อลูกเดินได้ด้วยตัวเองแล้ว ก็จะไม่ยอมให้พ่อแม่ หรือใคร ๆ จูงมืออีกต่อไป ซึ่งนั่นหมายความว่าพ่อแม่ หรือคนในครอบครัวได้เวลาที่ต้องวิ่งไล่จับเจ้าตัวเล็ก เพราะเชื่อได้ว่าเมื่อไหร่ที่เท้าน้อย ๆ มีความมั่นคงแข็งแรงมากพอ ก็จะต้องวิ่งไม่หยุดให้คนเลี้ยงเหนื่อยไปตาม ๆ กัน ยิ่งเห็นคนวิ่งไล่ก็ทำให้รู้สึกสนุกจนไม่อยากจะเลิก เพราะฉะนั้นถ้าพ่อแม่อยากให้ลูกมีพัฒนาการตามช่วงวัย ก็อย่าลืมส่งเสริมพัฒนาการด้านอื่น ๆ ให้ลูก เช่น การเลือกอาหารที่มีประโยชน์ หรือการทำกิจกรรมร่วมกัน ที่สำคัญก็คือกำลังใจบวกแรงเชียร์จากพ่อแม่จะทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี