ผลไม้สำหรับทารก

แนะนำ 9 ผลไม้สำหรับทารก รสชาติอร่อย ครบครันด้วยคุณประโยชน์

เมื่อเอ่ยถึงอาหารสำหรับทารก เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึงผลไม้กันอยู่แน่นอน ซึ่งการให้เด็กทารกทานผลไม้นั้น นอกจากจะช่วยกระตุ้นปุ่มรับรสที่ดีให้กับลูกน้อย ที่สำคัญยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและการทำงานของฟันให้เจริญเติบโตขึ้นด้วย แต่ก็มีคุณแม่ไม่น้อยเลยที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกผลไม้ชนิดไหนกับลูกน้อยกันดี ในวันนี้เราก็ได้รวบรวมผลไม้สำหรับทารกที่มีประโยชน์มาให้ทุกคนได้รู้จักกันแล้ว

ผลไม้สําหรับทารก 6 เดือน

บอกต่อ 9 ผลไม้สำหรับทารกที่มีประโยชน์ต่อเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป

เนื่องจากเด็กทารกที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป เริ่มมีพัฒนาการในด้านการเคี้ยวแล้ว การให้ลูกได้ทานผลไม้ที่มีรสหวานและอุดมไปด้วยวิตามินก็ถือเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อลูกเช่นกัน ซึ่งก่อนจะให้ลูกทานผลไม้สำหรับทารกก็ควรที่จะบดเนื้อให้ละเอียดก่อนที่จะให้ลูกทานทุกครั้ง โดยเริ่มจากปริมาณน้อยก่อน จากนั้นค่อยเพิ่มปริมาณการทานขึ้นทีละนิด ซึ่งผลไม้สําหรับทารก 6 เดือน ที่ happybabys อยากจะแนะนำก็มีดังนี้

กล้วย

กล้วย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กล้วย ถือเป็นผลไม้ที่ทานง่าย ทั้งยังละลายน้ำและช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายได้ดี เพราะในกล้วยนั้นอุดมไปด้วยโพแทสเซียมและไฟเบอร์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อลูกน้อยทานเข้าไปแล้วจะช่วยให้ลูกขับถ่ายได้ดีขึ้น และยังช่วยให้อิ่มท้องได้นานด้วย

แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ล

หากลูกน้อยมีอาการคันเหงือก การให้ลูกได้กัดแอปเปิ้ล ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นระบบการทำงานของฟันได้ดี ที่สำคัญในแอปเปิ้ลยังอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันและระบบขับถ่ายให้ทำงานได้เป็นปกติด้วยเช่นกัน

แคนตาลูป

แคนตาลูป

เป็นผลไม้ที่มีความฉ่ำและเนื้อนุ่ม ซึ่งภายในอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายและกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ดี ที่สำคัญในแคนตาลูปยังเป็นผลไม้ที่มีรสหวานกำลังดีและเคี้ยวง่าย หากลูกน้อยได้ทานเข้าไปรับรองว่าอร่อยติดใจแน่นอน

ส้ม

ส้ม

อีกหนึ่งผลไม้ที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้กับส้ม เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง อีกทั้งยังมีธาตุเหล็กและกรดที่ช่วยในเรื่องของการย่อยโปรตีนในนมได้ดี ซึ่งคุณแม่สามารถนำส้มมาคั้นเป็นน้ำให้ลูกดื่มหรือจะป้อนส้มให้ลูกทานโดยนำเมล็ดออกก็ได้เช่นกัน แต่ด้วยรสชาติของส้มที่มีความเปรี้ยวนำอาจทำให้เด็กบางคนไม่ชอบทาน ดังนั้นจึงควรเลือกส้มที่มีรสหวานสักหน่อยก็จะช่วยให้เด็ก ๆ ทานส้มได้ไม่ยากเลย

แตงโม

แตงโม

สำหรับเด็ก ๆ คนไหนที่ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำ การให้ลูกทานแตงโมก็จัดเป็นผลไม้ที่ช่วยทดแทนการขาดน้ำในร่างกายได้เป็นอย่างดีเลย ที่สำคัญในแตงโมยังอุดมไปด้วยวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาและยังเป็นยาระบายชนิดเบา จึงช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานได้เป็นอย่างดี

มะม่วงสุก

มะม่วง

ผลไม้ที่ทานง่ายหนึ่งชนิดก็คือ มะม่วงสุก ภายในอุดมไปด้วยวิตามินเอและสารแอนติออกซิแดนซ์ ที่ช่วยบำรุงสายและช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้กับลูกน้อยได้เป็นอย่างดี แต่อาจต้องเลือกมะม่วงที่มีสีเหลืองและเนื้อนิ่ม เพื่อให้ลูกเคี้ยวง่ายขึ้น นี่จึงเป็นผลไม้สําหรับทารก 7 เดือน ที่เด็ก ๆ น่าจะชอบกันมากเลย

อโวคาโด

อโวคาโด้

หากให้พูดถึงผลไม้ที่มีประโยชน์อีกหนึ่งชนิด เชื่อว่าคุณแม่หลาย ๆ คนต้องนึกถึง อโวคาโด ซึ่งรสชาติของผลไม้ชนิดนี้จะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มและรสชาติละมุนลิ้น อีกทั้งยังอัดแน่นด้วยกรดไขมันและวิตามินอีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ทั้งนี้รสชาติของอโวคาโดอาจทานยากสำหรับลูกน้อยไปสักหน่อย ดังนั้นคุณแม่สามารถนำมาบดรวมกับกล้วยหรือผลไม้ที่ให้ความหวานชนิดอื่น ๆ ได้เช่นกัน 

มะละกอ

มะละกอ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในมะละกอ เป็นผลไม้ที่อัดแน่นด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยภายในอุดมไปด้วยไฟเบอร์และกรดโฟลิกที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อทานเข้าไปแล้วจะช่วยบำรุงสายตา ระบบขับถ่าย และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นด้วย

พรุน

ลูกพรุน

พรุน จัดเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงและยังเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวาน ทานง่าย และยังดีต่อสุขภาพของเด็ก ๆ ด้วย ซึ่งการให้ลูกทานพรุนนั้น อาจต้องบดให้เป็นเนื้อเนียนละเอียดก่อนแล้วค่อยป้อนกับลูกน้อย หรือถ้าคุณแม่อยากเพิ่มสารอาหารในแต่ละมื้อให้กับลูกก็สามารถใส่พรุนลงไปในมื้ออาหารหลักได้เช่นกัน

ข้อควรระวังสำหรับการให้ลูกทานผลไม้สำหรับทารกตั้งแต่อายุ 6 เดือน

สำหรับผลไม้สำหรับทารกที่แนะนำไปข้างต้น ถือเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การจะให้ลูกทานผลไม้นั้น คุณแม่ควรนำผลไม้ไปนึ่งหรือบดให้ดีก่อนทุกครั้ง เพราะลำไส้ของทารกในช่วงวัยนี้ยังไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก ซึ่งถ้าลูกไม่ชอบทานผลไม้ก็ลองเปลี่ยนผลไม้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอผลไม้ที่ลูกชอบ หรือคุณแม่อาจนำนมแม่มาผสมกับผลไม้แล้วป้อนให้ลูกทานก็ได้เช่นกัน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ลูกทานผลไม้ได้ง่ายขึ้น


แชร์บทความนี้
Scroll to Top