พัฒนาการลูกช้าเกิดจากการตามใจของพ่อแม่ บางครั้งที่เราเดินทางออกไปยังสถานที่สาธารณะ เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหาร เรามักจะเห็นเด็กตัวเล็กตัวน้อยมีอุปกรณ์สื่อต่าง ๆ อยู่ในมือแทบจะทุกคน ซึ่งนั่นนับเป็นตัวช่วยชั้นดีของพ่อแม่ที่จะทำให้ลูกหยุดนิ่ง อย่างเด็กบางคนอาจเป็นเด็กในช่วงวัยที่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเองอย่างการกินข้าว แต่ก็ยังมีพ่อแม่หลายคนที่ยังป้อนข้าวแล้วให้ลูกดูจออย่างสบายอารมณ์ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะจะมีพ่อแม่บางส่วนที่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว และรู้หรือไม่ว่า พัฒนาการลูกช้าเกิดจากการตามใจของพ่อแม่ถ้าไม่อยากให้ลูกใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นลำบาก ให้มาศึกษาข้อมูลด้านล่างเพื่อจะได้เตรียมตัวรับมือได้อย่างเหมาะสม

พัฒนาการลูกช้าเกิดจากการตามใจของพ่อแม่ ผลเสียจากการตามใจลูก
พ่อแม่ที่มีจิตสำนึกก็ล้วนรักลูกด้วยกันทั้งนั้น แต่การที่รักแบบไม่ลืมหูลืมตาก็อาจกลายเป็นดาบสองคม ซึ่งเรากำลังจะบอกว่า ผลเสียจากการตามใจลูก นั้นมีความรุนแรงกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะทำให้ลูกเอาแต่ใจจนเคยตัวแล้ว เมื่อโตขึ้นพ่อแม่ก็อาจจะเอาไม่อยู่ ในทำนองเดียวกับไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่างการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การอาบน้ำ, การแต่งตัว หรือการใส่รองเท้า ซึ่งถ้าเป็นช่วงวัยที่กล้ามเนื้อมือยังไม่แข็งแรงก็สามารถทำให้ได้ แต่ถ้าถึงช่วงวัยที่ทำได้เองแล้ว และพ่อแม่ยังทำให้อยู่ก็จะทำให้เด็กติดนิสัยไม่อยากทำอะไรเอง เมื่อถึงเวลาในการเข้าสังคมโรงเรียน ลูกก็จะทำอะไรช้ากว่าเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองได้ตั้งแต่แรก

การฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเอง
การฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเอง ถือเป็นการบอกลูกไปในตัวว่า ตอนนี้ลูกเติบโตขึ้นจนสามารถทำอะไรเองได้แล้ว โดยที่ไม่ต้องมีพ่อแม่คอยทำให้ แต่สามารถอยู่ข้าง ๆ คอยชี้แนะวิธีให้ได้ พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือในกรณีที่อาจเกินกำลังได้ เช่น
- การกินข้าว แม้ว่ามือเล็ก ๆ นั้นจะยังไม่มั่นคง แต่ก็สามารถจับช้อนเองได้แล้ว แม้จะหกบ้าง กินบ้าง ก็ถือเป็นประสบการณ์ให้ลูกได้เรียนรู้ และในครั้งต่อไปลูกก็จะพยายามตักข้าวได้ดีกว่าเดิม
- การอาบน้ำ ถึงแม้ว่าการอาบน้ำของลูก จะยังไม่สะอาดเท่าที่ควร แต่ก็ต้องฝึกไว้เพื่อที่ลูกจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ โดยพ่อแม่สามารถยืนอยู่ข้าง ๆ และช่วยถูสบู่, ล้างน้ำสะอาด และช่วยเช็ดตัวในส่วนที่ทำไม่ได้
- การแต่งตัว พ่อแม่จะต้องหัดให้ลูกใส่เสื้อผ้าด้วยตัวเอง โดยอาจให้ลูกไปลองเลือกเสื้อผ้าที่ชอบ แล้วก็ช่วยกันแต่งตัวจนเสร็จ เมื่อลูกรู้วิธีแล้วก็จะจดจำ และทำได้ด้วยตัวเอง
เมื่อลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในเบื้องต้น พ่อแม่ต้องไม่ลืมให้กำลังใจด้วยคำชมต่าง ๆ เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง และเกิดความภูมิใจจนอยากทำเรื่องอื่น ๆ ตามไปด้วย และไม่ว่าลูกจะอยู่ในช่วงวัยไหนก็ตาม พ่อแม่สามารถ ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเอง ได้ตามช่วงวัย ที่สำคัญห้ามใจอ่อนเมื่อลูกปฏิเสธไม่อยากทำอะไรเอง แต่ให้ลองเกลี้ยกล่อมเพื่อที่ลูกจะได้ทำด้วยความเต็มใจ

ปัจจัยที่ทำให้ลูกพัฒนาการช้า
ปัจจัยที่ทำให้ลูกพัฒนาการช้า สาเหตุหลักเกิดจากการเลี้ยงดู ที่ทำให้ลูกทำอะไรได้ช้ากว่าคนอื่น เพราะพ่อแม่ทำอะไรให้ตลอดเวลาจึงทำให้ลูกเกิดความไม่มั่นใจที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง และนั่นหมายความว่าลูกจะไม่มีทักษะในด้านการตัดสินใจ หรือด้านการสื่อสาร ถ้าพ่อแม่บ้านไหนที่เลี้ยงลูกลักษณะนี้ควรจะปรับโดยไว ไม่อย่างนั้นจะไม่ใช่แค่ลูกจะไม่มีความไม่มั่นใจ แต่มันรวมไปถึงการบอกความต้องการ ที่ทำได้เฉพาะการแสดงท่าทางด้วยการชี้ เนื่องจากลูกรู้ว่าพ่อแม่เข้าใจในท่าทางนั้นโดยไม่ต้องพูด ซึ่งถ้าไปอยู่สังคมภายนอกก็จะทำให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ยาก เพราะไม่มีใครเข้าใจความต้องการเหมือนที่พ่อแม่ทำให้ และอาจส่งผลให้เด็กกลายเป็นคนเก็บตัว จนไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น