คนท้องปวดหัว เกิดจากสาเหตุอะไรแล้วแก้ยังไง อาการปวดหัว โดยปกติ ของคนทั่วไปที่ไม่ได้มีอาการอะไรอื่นแทรก ก็นับว่ามีความทรมานอยู่แล้วประมาณหนึ่ง แล้วยิ่งถ้ามาเกิดกับ คนท้อง ยิ่งทำให้อาการมันเป็นมากกว่าคนปกติ เพราะมันไม่สามารถทำอะไรได้อย่างใจคิด ไม่สามารถที่จะหยิบยามาทานได้อย่างสบายใจ เพราะการจะทานยาอะไรก็ตาม ก็ต้องคำนึงถึงลูกในท้องเสมอ บางคนแม้ว่าจะกินยาเข้าไป หวังให้ทุเลาแต่ก็ไม่ได้ผล จนบางทีอาจส่งผลต่อลูกได้ ทำให้ต้องถึงมือหมอ กว่าจะถึงมือหมออาการจึงสงบได้ โดยเฉพาะ คุณแม่ บางคนก็มีอาการนี้ในขณะ ตั้งครรภ์ ก็ยิ่งทำให้เกิดความทรมานทวีคูณไปอีก ดังนั้น การดูแลตัวเองจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะทุกอย่างที่เกิดกับ คุณแม่ ก็สามารถส่งผลไปยังลูกในท้อง
ซึ่งเรื่องของ คนท้องปวดหัว เกิดจากสาเหตุอะไรแล้วแก้ยังไง เป็นคำถามที่น่าสนใจ และบอกได้เลยว่าคำตอบของมันก็เป็นประโยชน์ เพราะว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจถึงอาการของมันมากนัก คิดแต่ว่าแค่กินยาก็น่าจะหายแล้ว แต่ถ้ารู้วิธีการที่ถูกต้องก็จะเป็นผลดีมากกว่าการกินยาเพียงอย่างเดียว โดย สาเหตุของการปวดหัว มีดังนี้
สาเหตุที่ทำให้ คนท้องปวดหัว เกิดจากสาเหตุอะไรแล้วแก้ยังไง มีดังนี้
1. อาการปวดหัวจากไมเกรน สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด อาการโดยรวม จะเริ่มปวดที่ด้านใดด้านหนึ่ง หรือคลื่นไส้อาเจียน ส่วนระดับความปวด มีตั้งแต่ปานกลาง – รุนแรง และ กินระยะเวลาได้ตั้งแต่หลักชั่วโมง – วัน ซึ่ง คุณแม่ตั้งครรภ์ ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ และ ประคบเย็น ที่หน้าผาก หรือปรึกษาแพทย์เพื่อที่จะได้รับยาที่ปลอดภัย
2. ปวดหัวจากอาการกล้ามเนื้อตึง เป็นการปวดที่ด้านหลังหัว หรือด้านหลังดวงตา ความรู้สึกจะเหมือนกับว่าถูกอะไรรัดหัวไว้ ซึ่งอาการลักษณะนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ยา แค่ใช้การ ประคบอุ่น หรือ ประคบเย็น ที่หัว หรือ อาบน้ำอุ่น ก็เพียงพอแล้ว
3. ปวดหัวแบบคลัสเตอร์ จะไม่ค่อยพบในผู้หญิงสักเท่าไหร่ แต่ก็มีบ้างที่อาจพบใน คุณแม่ตั้งครรภ์ โดยอาการปวดจะมีลักษณะคล้าย ๆ กับ ไมเกรน แต่จะรู้สึกแสบร้อนที่ช่วงหางตา และจะค่อย ๆ ดีขึ้นหลังจาก 3 ชั่วโมง เป็นต้นไป ส่วนการรักษา จะต้องหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปโดยผ่านทางหน้ากาก เพราะเป็นวิธีที่ปลอดภัยมากกว่าการใช้ยา
4. ปวดหัวขณะหลับ อาการแบบนี้มักเกิดในผู้หญิงอายุมาก เป็นส่วนใหญ่ โดยอาการนี้จะเกิดขึ้น ในช่วงเวลานอนหลับ แต่จะถูกทำให้ตื่นขึ้นเนื่องจากอาการปวด แล้วก็จะเกิดซ้ำ ๆ ในเวลาเดิมอย่างต่อเนื่องแต่จะไม่นานมาก ทางแก้ก็คือ สามารถทานคาเฟอีนก่อนนอน หรือ ทานยาตามคำแนะนำของแพทย์
ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นเรื่องที่ จะต้องเจอ โดยเฉพาะไตรมาสแรก เนื่องจากว่าระดับฮอร์โมน กับปริมาณเลือดจะเพิ่มสูงขึ้น แต่เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 กับ 3 อาการที่จะเกิดก็จะมาจากปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของฮอร์โมนเพียงอย่างเดียว เช่น น้ำหนัก หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ได้
6 เทคนิคเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัว
จริง ๆ แล้วเรื่องของโรคภัย เป็นเรื่องที่ห้ามได้ยากมาก ต่อให้ร่างกายแข็งแรง แค่ไหนก็ตาม ทุกคนก็จะมีโรคภัยกวนใจ แต่เมื่อเกิดอาการอย่างใด อย่างหนึ่งแล้ว ก็ต้องทำการรักษา เพื่อให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งนอกจากการทานยารักษาแล้ว ก็ยังมี 6 เทคนิคเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัว สำหรับ คุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่อให้สามารถรับมือได้ทัน
1. หลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิด อาการปวดหัว เช่น การได้รับกลิ่นต่าง ๆ ทั้งกลิ่นหอม หรือกลิ่นเหม็น รวมทั้งงดคาเฟอีน / แอลกอฮอล์ และผลไม้รสเปรี้ยว
2. ลดความเครียด ด้วยการทำกิจกรรม แทนการใช้ความคิดเรื่องต่าง ๆ เพียงลำพัง เช่น การพบปะพูดคุยกับคนสนิท หรือการอ่านหนังสือเบาสมอง หากทำได้จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ
3. งดใช้สารนิโคติน หาก คุณแม่ตั้งครรภ์ ท่านไหนติดการ สูบบุหรี่ อยู่ ขอแนะนำให้เลิกโดยเด็ดขาด เพราะมันส่งผลกระทบโดยตรงทั้งตัวแม่ และลูก
4. ผ่อนคลายด้วยการนวดน้ำมัน เพื่อให้เลือดลมไหลเวียนดี เมื่อสุขภาพกาย และสุขภาพใจดี ก็จะทำให้โอกาสของการปวดลดน้อยลง
5. พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการอดหลับอดนอน มีส่วนให้ร่างกายเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ดังนั้น จึงต้องนอนหลับให้สนิท โดยอาจนอนในห้องที่มีความมืด และเงียบสงบ
6. บำรุงร่างกายให้มีสุขภาพดีด้วยผัก ผลไม้ที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบ 5 หมู่ และ ต้องดื่มน้ำอย่างเพียงพอเพื่อให้ผิวเกิดความชุ่มชื้นด้วย
การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ มีอาการปวดหัว แล้วจะหยิบยาขึ้นมาทานนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก เพราะต้องระมัดระวังว่าจะมีผลกระทบ กับ ลูกน้อยในครรภ์ไหม ทำให้แม่ ๆ หลายท่านทุกข์ทน กับ อาการปวดหัว เพราะฉะนั้น การที่คนท้องจะทานยาอะไร จึงอาจต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ ส่วนข้อมูลข้างต้นนั้น อาจจะช่วยให้ความรู้แม่ ๆ ไม่มากก็น้อย
