นมผง ถือเป็นอาหารทางเลือกที่มีคุณค่าอาหารทดแทนสำหรับเด็กได้ แม้ในความเป็นจริง น้ำนมแม่ จะเป็นสารอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้คุณแม่ให้นมลูกตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุ 2 ปี แต่ในปัจจุบันก็ยังมีคุณแม่บางคนที่ไม่สามารถให้นมแม่กับลูกได้เช่นกัน ฉะนั้น การให้นมผงทดแทนสำหรับลูกน้อยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยที่ตัวคุณแม่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด เพราะการเตรียมนมผงสำหรับลูกน้อย มีเทคนิคการชงนมผงที่ถูกต้องตามสุขลักษณะและหลักอนามัย ซึ่งบทความของ Happybabys แม่และเด็ก ในวันนี้จะขอพาทุกท่านไปทำความเข้าใจเตรียมนมผงให้ลูกน้อยกันค่ะ
ความแตกต่างระหว่าง นมผง กับ นมแม่
พวกเรายังขอยืนยันตามเดิมว่า น้ำนมแม่ คือแหล่งโภชนาการที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็ก แต่คุณแม่บางรายที่มีปัญหาทางสุขภาพก็ไม่สามารถให้นมลูกได้ เพราะน้ำนมแม่ส่งต่อมาจากสุขภาพของผู้ที่เป็นแม่ คุณภาพของน้ำนมจึงขึ้นอยู่กับอาหารที่คุณแม่รับประทานเข้าไป ส่วนประกอบในน้ำนมแม่ยังเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เพื่อให้เหมาะสมกับเด็กในแต่ละช่วงวัยอีกด้วย
นมผง มักจะผลิตมาจากนมวัว แต่เป็นการดัดแปลงนมเพื่อเลียนแบบส่วนประกอบที่ทีมในน้ำนมแม่ ดังนั้นสารอาหารหรือส่วนประกอบจะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่คุณแม่ที่เลือกให้นมผงแก่ลูกน้อย ต้องเปลี่ยนสูตรเพื่อให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็กิ้ง อีกทั้งระบบทางเดินอาหารของเด็กจะสามารถย่อยและดูดซึมน้ำนมแม่ได้ดีกว่านมผง การเตรียมนมผงสำหรับลูกที่ไม่ถูกต้องตามสุขลักษณะ จะทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายท้องและท้องอืดได้ ซึ่งเราจะขอขยายความในหัวข้อถัดไป
วิธีชงนมผง ให้ถูกสุขลักษณะอนามัย
การเตรียมภาชนะ
การเตรียมภาชนะสำหรับชงนมผง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ วิธีชงนมผง ที่ถูกต้อง โดยคุณแม่สามารถเตรียมทุกอย่างได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ล้างมือให้สะอาดก่อนทำการเตรียมทุกครั้ง
- เลือกภาชนะใส่นมที่สะอาด หากมีนมเหลือในขวด ต้องทำความสะอาดก่อน
- ภาชนะใส่นมที่ต้องฆ่าเชื้อด้วยการต้มหรือการนึ่งทุกชิ้น
- หลังจากการต้มหรือนึ่งภาชนะใส่นมแล้ว ต้องพักให้แห้งสนิท
การเตรียมน้ำสำหรับชง นมผง
หลังจากเตรียมภาชนะใส่นมที่ถูกต้องตามหลักอนามัยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมน้ำสำหรับชงนมผง คุณแม่ต้องใช้น้ำต้มเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นระหว่างการชงนมให้ลูกน้อยระหว่างการชงนม ด้วยการต้มน้ำให้เดือดแล้วปล่อยให้อุณหภูมิของน้ำลดลงไปจนเป็นน้ำอุ่น โดยมีอุณหภูมิราว ๆ 40 องศาเซลเซียส แล้วค่อยนำน้ำมาชงนมให้ลูกน้อยกิน
การตวงนมผง และ การชงนมให้ละลาย
- ล้างมือให้สะอาดก่อนเตรียมนมผง
- นำขวดนมที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วมาใช้
- ตรวจสอบสัดส่วนของน้ำและนมผงตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์
- เติมน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ตามปริมาณที่กำหนด ก่อนการใส่นมผง
- ใช้ช้อนตวงนมผงให้เต็ม เคาะเอาฟองอากาศออกก่อน แล้วปาดช้อนตวงให้เรียบ จากนั้นให้เติมนมผงลงไป ใส่จุกนม ปิดฝาขวดให้แน่นสนิท
- ค่อย ๆ เขย่าขวดเบา ๆ จนกว่านมผงจะละลาย อย่าเขย่าขวดนมแรงเกินไป เพราะจะมีฟองอากาศเกิดขึ้น เมื่อลูกน้อยกินนมที่มีฟองอากาศเข้าไป อาจทำให้ท้องอืดได้
- ก่อนจะให้นมลูกน้อย ลองหยดนมจากขวดลงบนหลังฝ่ามือ เพื่อเช็คว่านมร้อนเกินไปหรือไม่
การเก็บรักษานมผงและนมที่ชงแล้ว
- หากเป็นนมผงที่ยังไม่ได้ชง สามารถเก็บรักษาตามคำแนะนำบนฉลากของผลิตภัณฑ์ได้เลย เก็บไว้ในที่แห้ง ห่างไกลความร้อนและความชื้น โดยส่วนใหญ่ นมผงที่เปิดปากถุงไปแล้ว จะมีอายุการเก็บนานประมาณ 1 เดือน แนะนำให้คุณแม่เขียนวันที่กำกับไว้ด้วย
- นมที่ชงและกินไปแล้ว ในความเป็นจริง คุณแม่ควรให้ลูกทานนมให้หมดในครั้งเดียว หากน้ำนมยังเหลือในขวด สามารถให้ลูกทานนมที่เหลือได้ภายใน 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น
- นมที่ชงแล้ว แต่ลูกยังไม่ได้กิน ในกรณีที่คุณแม่ชงนมแล้ว แต่ลูกน้อยยังไม่ได้กินนม สามารถนำนมไปแช่เย็นได้ แต่ให้แช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา ห้ามเป็นช่องแช่แข็งเด็ดขาด เมื่อนมเย็นลงแล้ว สามารถเก็บไว้ได้ 24 ชั่วโมงเท่านั้น
- หากนมที่ชงแล้ว แต่ไม่ได้แช่เย็น คุณแม่ควรปิดฝาให้สนิทและวางไว้ในอุณหภูมิห้องได้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง หากเกินนี้ให้เททิ้งทันที เพราะถ้าเด็กได้ทานนมเข้าไปอาจทำให้ท้องเสียได้
- ในกรณีที่คุณแม่ต้องการอุ่นนมชงที่แช่เย็นไว้ ให้นำนมออกมาจากตู้เย็นและเทใส่ภาชนะสำหรับอุ่นนม ระหว่างการเทนมชง พยายามอย่าให้นมไปสัมผัสกับขวดนมหรือฝาจุกนม ห้ามอุ่นนมด้วยไมโครเวฟ และไม่ควรอุ่นนมนานเกิน 10 นาที
