ef

EF คืออะไร และทำไมถึงมีความสำคัญกว่า IQ

EF คืออะไร นี่เป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนกำลังสงสัย แถมยังเคยมีนักวิชาการเด็กหลายคนเคยทำการวิจัยและสรุปไว้แล้วด้วยว่า ทักษะ EF มีความสำคัญต่อลูกน้อยของคุณมากกว่า IQ เสียอีก อีกทั้งโรงเรียนสำหรับลูกน้อยในยุคปัจจุบัน ก็ยังเพิ่มหลักสูตรการบูรณาการวิชาการผนวกกับกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมทักษะ EF เอาไว้อีกหลายโรงเรียนด้วย

ซึ่งในบทความของ Happybabys แม่และเด็ก ในวันนี้ จะพาคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านไปทำความรู้จักกับทักษะ EF กันว่า ทักษะนี้คืออะไรและมีความสำคัญกับลูกน้อยของคุณอย่างไร และคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยส่งเสริมทักษะดังกล่าวให้ลูกน้อยในรูปแบบใดได้บ้าง คลายข้อสงสัยไปกับพวกเราได้ในวันนี้เลยค่ะ

ทักษะ EF คืออะไร

ทักษะ EF หรือ Executive Function หรือเรียกในภาษาไทยว่า ทักษะสมองส่วนหน้า โดยเป็นสมองส่วนที่ทำหน้าที่ในการควบคุมความคิด ความรู้สึก การกระทำ ส่งผลต่อการวางแผน การจัดระเบียบ การริเริ่ม การควบคุม ไปจนถึงการประเมินความคิด อารมณ์ และการกระทำของตนเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ได้

ถ้าจะให้ตีความหมายว่า ทักษะ EF คืออะไร ในแบบง่าย ๆ นั่นก็คือ ทักษะ EF เป็นทักษะสมองที่จะช่วยให้ชีวิตประสบความสำเร็จ หากในแง่ของการใช้ชีวิต การกระทำของมนุษย์ทุกคนจะต้องผ่านกระบวนการใช้ความคิด การตัดสินใจ การวางแผน การควบคุมอารมณ์ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ฉะนั้น คนเราจะเก่งแค่วิขาการอย่างเดียวไม่ได้ ดังที่พวกเรากล่าวไว้ในหัวข้อของบทความนี้

EF คืออะไร

EF มีความสำคัญอย่างไร และทำไมจึงเหนือกว่า IQ

โดยส่วนใหญ่แล้ว หลายท่านคงจะคุ้นเคยกับความฉลาดทางสติปัญญาที่สามารถวัดค่าได้เป็น 4 ประเภทอย่าง IQ (ความฉลาดทางสติปัญญา), EQ (ความฉลาดทางอารมณ์), SQ (ความฉลาดทางสังคม) และ AQ (ความฉลาดในการแก้ปัญหา) เพราะมนุษย์จะต้องใช้ความฉลาดทั้ง 4 ประเภทนี้ควบคู่กันไปในการใช้ชีวิตประจำวัน

และความสำคัญของทักษะ EF หรือทักษะสมองส่วนหน้า จะเป็นทักษะที่จะช่วยให้มนุษย์สามารถควบคุมอารมณ์ รู้จักยับยั้งพฤติกรรม สามารถวางแผน แก้ปัญหา และตัดสินใจได้มีประสิทธิภาพได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยทักษะ EF ถูกแบ่งเป็น 9 ประเภทดังนี้

  1. การจดจำเพื่อใช้งาน
  2. ยืดหยุ่นความคิด
  3. ยั้งคิดไตร่ตรอง
  4. จดจ่อใส่ใจ
  5. ควบคุมอารมณ์
  6. ติดตามประเมินตนเอง
  7. ริเริ่มและลงมือทำ
  8. วางแผนและจัดระบบดำเนินการ
  9. มุ่งเป้าหมาย

ต่อยอดจาก EF คืออะไร และทำไมถึงควรปลูกฝังให้ลูกน้อย

ทักษะ EF ไม่ได้มีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ต้องปลูกฝังให้กับลูกน้อยตั้งแต่ยังเด็ก และยังต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมออีกด้วย เพราะเด็กในช่วงอายุ 3-6 ปี จะเป็นช่วงที่เด็กมีพัฒนาการเพื่อพัฒนาทักษะ EF อย่างรวดเร็ว พูดง่าย ๆ ว่า แม้ทักษะนี้จะไม่ได้มีมาตั้งแต่กำเนิด แต่เด็กทุกคนก็มีศักยภาพเพียงพอที่จะพัฒนาทักษะนี้ได้

หากคุณพ่อคุณแม่เริ่มปลูกฝังและฝึกฝนการพัฒนาทักษะ EF ให้กับลูกน้อยอย่างรวดเร็วก็จะยิ่งได้เปรียบ เพราะทักษะนี้จะเปรียบเสมือนชิปข้อมูลที่ฝังอยู่ในสมอง และจะส่งผลกับเด็กไปจนถึงตอนที่โตเป็นวัยรุ่นเลยด้วย ซึ่งทักษะ EF ทั้ง 9 ประเภทที่เรากล่าวไปในหัวข้อที่แล้ว หากเด็กขาดทักษะประเภทใดประเภทหนึ่งไปจะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กโดยตรง ตัวอย่างเช่น หากเด็กไม่มีความคิดยืดหยุ่น ก็อาจคิดแก้ไขปัญหาไม่เป็น ขาดทักษะการควบคุมอารมณ์ก็อาจเป็นคนเจ้าอารมณ์ ขี้โมโห เป็นต้น

กิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างทักษะ EF ให้ลูก

  1. ปล่อยเล่นอิสระ การปล่อยเล่นอิสระไม่ได้หมายถึงการปล่อยปละละเลย แต่เป็นการไม่ไปก้าวก่ายควบคุมการเล่นของลูก ปล่อยให้ลูกเล่นโดยที่คุณพ่อคุณแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด และไม่ควรเร่งให้ลูกอ่านออกเขียนได้ แต่ให้ช่วยส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้จากการลงมือทำด้วยตนเอง
  2. ฝึกลูกให้ช่วยทำงานบ้าน เริ่มจากการฝึกลูกให้ทำสิ่งต่าง ๆ รอบตนเองก่อน เช่น เก็บแปรงสีฟัน เก็บเสื้อผ้าให้เข้าที่ ยกจานข้าวไปวางในอ่าง หรือฝึกให้ลูกเลียนแบบพฤติกรรมในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ทำงานบ้าน จะช่วยพัฒนากระบวรนการความคิด กลายเป็นประสบการณ์ติดตัวลูกไปจนโตได้
  3. อ่านนิทานให้ลูกฟัง เมื่อคุณพ่อคุณแม่เล่านิทานให้ลูกฟัง ลูกจะจดจ่อกับเรื่องราวอันสนุกสนาน อีกทั้งมีภาพสีสันสวยงาม ช่วยให้ลูกได้ใช้จินตนาการ ได้คิดตาม ซักถาม ช่วยฝึกให้ลูกพัฒนาความคิดที่ยืดหยุ่นได้ รวมไปถึงการให้ลูกฝึกคิดเชื่อมโยงอีกด้วย

จากบทความของ Happybabys ในวันนี้ คงช่วยให้คุณพ่อคุณแม่หลายท่านได้คลายสงสัยกันไปบ้างแล้วว่า EF คืออะไร หวังว่าเนื้อหาในบทความของเราจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มองเห็นความสำคัญในการปลูกฝังและฝึกฝนทักษะ EF ให้กับลูกน้อยของคุณ

แชร์บทความนี้
Scroll to Top